เกี่ยวกับเรา
เจ้าของ website จบจากศศินทร์ เคยทำงานด้านวิเคราะห์หลักทรัพย์ และวาณิชธนกิจที่ Peregrine Finance & Securities (ถูกซื้อกิจการโดย BNP Paribas และ Lehman Brothers ไปในปี 2541), จากนั้นไปทำรีสอร์ท ร้านดำน้ำ ที่เกาะเต่า 8 ปี ทำงานในฝ่ายธุรกิจสถาบันการเงิน (Financial Institutions) ของธนาคารทหารไทยอีก 5 ปี มาซื้อที่ดินแปลงแรกที่เขาใหญ่ในปี 2549 ลาออกจากธนาคารในปี 2553 เพื่อย้ายมาอยู่ที่เขาใหญ่อย่างถาวร
อีกท่านจบจากคณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มทำงานในสำนักงาน ของคุณองอาจ สาตรพันธุ์ และอีกหลายแห่ง จนตั้งออฟฟิศสถาปนิกของตัวเอง เมื่ออายุ 29 มีประสบการณ์การออกแบบมามากกว่า 35 ปี เป็นผู้ดูแลโครงการต่างๆ ตั้งแต่คัดเลือกที่ดิน วาง Layout จัดการด้านสาธารณูปโภค ดูแลหลังการขาย ตลอดจนให้คำแนะนำและออกแบบบ้านให้กับลูกบ้านในโครงการ
จากจุดเริ่มต้น... จนมาถึงโครงการเทรเชอร์
...เริ่มต้นจากความฝันที่ต้องการมีบ้านพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ ที่ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพราะไม่ต้องการเหนื่อยไปกับการขับรถ อีกทั้งจะได้ไปบ่อยๆ เมื่อพิจารณารอบด้านแล้ว ก็ไปลงตัวที่เขาใหญ่ เพราะตอบโจทย์เรื่องภัยธรรมชาติต่างๆ มีอากาศที่บริสุทธ์ และมีโรงเรียนนานาชาติให้ลูก เราจึงเริ่มมองหาที่ดินแปลงย่อยๆ สัก 2-4 ไร่ แต่ก็หาไม่ได้ มีแต่ที่แปลงใหญ่ๆ ในที่สุดก็ถลำตัวไปซื้อที่ดินขนาด 30 ไร่ แล้วก็พบว่าดูแลไม่ไหว จึงแบ่งที่ดินออกเป็นแปลงละ 4-5 ไร่ แล้วขายออกไปเพื่อลดภาระ ปรากฎว่าขายได้หมด จึงเกิดแนวคิดเรื่องการแบ่งที่ดินขายขึ้น
ใน 7-8 ปีแรก แปลงที่แบ่ง ยังเป็นแปลงขนาด 2 ไร่ขึ้นไป เมื่อที่ดินเขาใหญ่ขยับราคาสูงขึ้น แปลงที่แบ่งก็เริ่มเล็กลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดเมื่อเราแบ่งที่ดินจนเหลือขนาด 1 ไร่ ปัญหาที่พบคือ 70% -80% ของผู้ซื้อไม่มาสร้างบ้าน บางคนสร้างบ้านไม่สวย บางบ้านต่อเติมจนเลอะเทอะ เมื่อไม่มีการสร้างบ้าน ภายใน 1 ปี หญ้าก็สูง 2 เมตร และ 2-3 ปีผ่านไป ที่ดินก็กลายเป็นป่ากระถิน ปอกะสา จะไปบังคับให้เจ้าของที่มาจ่ายเงินเพื่อดูแล ตัดหญ้า ก็ลำบาก หลายคนก็มองว่า ยังไม่ได้มาอยู่ ก็ไม่อยากเสียเงิน ถนนที่พังไปตามกาลเวลา ก็ไม่มีเงินซ่อมแซม ในที่สุด โครงการก็ดูรกร้าง ไม่สวยงาม ไม่เหมือนตอนแรกเริ่ม
จากปัญหาเหล่านี้ จึงทำให้เราเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบของโครงการ ไม่แบ่งแปลงขาย แต่มาจัดสรรที่ดินอย่างเป็นระบบ โดยทำโครงการที่มีสาธาณูปโภคครบพร้อม ทำถนนคอนกรึต ที่ทน 15-20 ปี โดยเริ่มในปี 2560 ที่โครงการบ้านบนเนิน โครงการนี้มีการบริหารจัดการส่วนกลางที่ดี สร้างบ้านให้เจ้าของที่ดิน โดยมีแบบบ้านให้เลือก 2-3 แบบ แต่ก็ให้ความยืดหยุ่น ให้เจ้าของที่ดินสามารถสร้างบ้านเอง ในแบบของตนเองได้ แต่ก็มีการควบคุมในเรื่อง แบบบ้าน การต่อเติมทั้งตัวบ้าน รั้ว บ้าน ฯลฯ มีกฎห้ามนำบ้านไปปล่อยเช่ารายวัน มีการตัดหญ้า ดูแลสวนให้ เราพบว่าการเฉลี่ยค่าใช้จ่ายกันในระหว่างลูกบ้านทุกคน ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับการไปอยู่แบบ Stand alone และคุ้มค่ามากๆ เพราะที่ดินมีมูลค่าเพื่มขึ้น เนื่องจากโครงการเป็นระเบียบ สวยงามอย่างยั่งยืน
ในโครงการที่ 8 - โครงการเทรเชอร์ นี้ เรามีการเพิ่มเติมระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้าใต้ดิน ระบบน้ำ Reverse osmosis ซึ่งผลิตจากส่วนกลาง และระบบอินเตอร์เนท fibre optic มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ นอกจากนั้น เรายังมีกฎบังคับเรื่องการจ่ายค่าส่วนกลางที่เข้มข้นขึ้น ทุกอย่างนี้ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแล ลดเวลา และภาระของลูกบ้านลงในระยะยาว